Coworking space หลายที่มีร้านอาหารอยู่ในตัวอยู่แล้ว และส่วนมากก็มีเป้าหมายที่จะบริการด้วยอาหารที่สดใหม่และดีค่อสุขภาพเพื่อสมาชิกและคนทั่วไป การมีร้านอาหารหรือร้านกาแฟนั้น นอกจากจะเป็นที่ๆดีเพื่อคลายเครียดแล้ว ยังเป็นที่ๆดีสำหรับพบปะคุยงานเล็กๆน้อยๆ วันนี้ Deskmag ขอนำเสนอตัวอย่างเล็กๆน้อยเกี่ยวกับ coworking space ที่มีร้านอาหารในตัว ที่ๆเหล่า coworkers สามารถจัด power lunch ของพวกเขาได้โดยไม่ต้องทุบกระปุกตัวเอง
Meet & Greet แบบง่ายๆ น่ารักๆ
Sankt Oberholz เป็นทั้ง coworking space และร้านอาหาร/ร้านกาแฟ ตั้งอยู่ในอาคารออฟฟิศสวยแบบคลาสสิก ใจกลาง Rosenthaler Platz กรุงเบอร์ลิน ที่นี่มีบรรยากาศสบายๆและอบอุ่น ด้วยการจัดตกแต่งที่มีพื้นที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง สร้างบรรยากาศดีๆสำหรับใครก็ตามที่อยากทำงานที่ไม่เงียบจนเกินไป
สำหรับชั้นบนนั้นเป็น “ko-working” space และถ้าหากคุณอยากจะงีบซักหน่อยหรือติดใจอยากจะอยู่ยาวๆ Sankt Oberholz ก็มีอพาร์ทเมนท์ให้เช่าอยู่ในตึกเดียวกันด้วย
ชั้นล่างสุดคือที่ๆคุณสามารถจัด Power Lunch ได้ เมนูที่นี่มีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวและหวาน รวมไปถึงมื้อเที่ยงเซ็ทพิเศษ ซุป ขนมปัง และ เบเกอรี่อบร้อนๆใหม่ๆ และถ้าคุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เบียร์สดซักเหยือกและไวน์ก็พร้อมจะเอาใจคุณที่นี่
สำหรับคนที่เป็นสมาชิกที่ Sankt Oberholz ร้านอาหารก็น่าจะเป็นสถานที่แฮงค์เอาท์ประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่(ยัง)ไม่เป็นสมาชิก ที่ร้านกาแฟ/ร้านอาหารแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ๆดีสำหรับการจัดประชุมเล็กๆ เพราะว่าที่นี่มี WIFI ฟรีสำหรับทุกๆคน ไม่ว่าคุณจะเป็นสมาชิกหรือไม่
:::
ครอบครัว coworking ร่วมทานมื้อเย็นด้วยกัน
Enerspace ที่ชิคาโก้เป็น coworking space ใจกลางเมืองที่เปิดเป็นสถานที่ให้คนมาทำงาน ที่ coworking space แห่งนี้เจาะจงเรื่องการดูแลสุขภาพกายและใจเป็นหลัก วิถีชีวิตสมาชิกที่นี่จะเป็นประมาณนี้ : ตื่นเช้ามาประชุม เข้าเวิร์คช็อปตอนกลางวัน ส่งอีเมล์เล็กน้อย และก็เข้าฟิตเนส ถ้าคุณไม่สามารถเข้าฟิตเนสแบบเต็มคอร์สได้ เขาก็จะแนะนำให้คุณลองวิ่งกับเพื่อน เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพและเพิ่มความกระตือรือร้นในการทำงาน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าที่ Enerspace จะเน้นเรื่องการกินดีเพื่อสุขภาพ ที่นี่จะจัดมื้อเที่ยงพิเศษทุกๆวันศุกร์สำหรับสมาชิกเพื่อกระตุ้นให้พวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรง
“เราตื่นเต้นมากกับมื้อเที่ยงสำหรับสมาชิก ฉันทำอาหารสำหรับงานครั้งแรก ตอนนั้นเป็นมื้อเช้าควบกลางวัน แต่หลังจากนั้นเหล่าสมาชิกก็อาสามาทำอาหารทุกๆวันศุกร์” Jamie Russo หัวหน้าฝ่ายงานและสุขภาพของ Enerspace กล่าวไว้ Russo ยังบอกกับ Deskmag อีกว่าสมาชิกที่นี่ให้ความร่วมมือกับทุกๆสิ่ง “พวกเขาเลือกสูตรอาหารเอง ซื้อวัตถุดิบ แล้วก็ทำอาหารด้วย” ที่นี่จัดมื้อเที่ยงอย่างเต็มที่ พวกเขาทั้งโปรโมทมื้อเที่ยงนี้ แจกบัตรเชิญ และเตรียมห้องครัวให้พร้อมอย่างครบครัน
“พวกเขาชอบมาก เราตื่นเต้นมากที่สามารถทำให้เป็นจุดสร้างสังคมได้ขนาดนี้” Russo เล่าและยังเสริมต่ออีกด้วยว่า ไม่เพียงแต่พวกเขาขยายพื้นที่และปรับลุคครัวให้เลิศสะแมนแตนขึ้นไปอีกเท่านั้น แต่พวกเขาก็ “รู้สึกได้ว่ามันจะเป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ”
> หน้าถัดไป : ค้นพบสุดยอดแห่ง Power Lunch
อบอุ่นแบบโฮมเมด
Agora คือ coworking space ที่ Neukölln เพื่อเหล่าชาวครีเอทีฟโดยเฉพาะ ที่นี่มีทั้งสตูดิโอสำหรับศิลปินและมีร้านอาหารน่ารักๆอีกด้วย Kurz vor Eden ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีดอกไม้จัดวางอยู่บนโต๊ะ และงานศิลปะบนผนัง ร้านอาหารนี้เปิดสำหรับทุกคนและเสิร์ฟเมนูปกติและมังสวิรัติวันละสองครั้ง ตัวเลือกจะอยู่ในเมนูประจำอาทิตย์ซึ่งคุณสามารถดูได้จากในเว็บไซต์ เช่น แซลมอนต้มกับเครื่องเทศ และซุปต่างๆ
Mirko Neumann เจ้าของ Kurz vor Eden เปิดที่นี่เพื่อให้สมาชิกของ Agora ที่กำลังท้องร้องจ่อกๆได้เติมพลังด้วยอาหารที่ดีต่อสุขภาพในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร
ร้านอาหารนี้ไม่ได้เปิดเฉพาะวันธรรมดาสำหรับเหล่า coworkers และเพื่อนๆเท่านั้น แต่ยังจัดอีเวนท์พิเศษสำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการสร้างสังคม ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อปีที่แล้ว Kurz Vor Eden จัดงาน Thanksgiving บุฟเฟ่ต์ จัดอาหารตามแบบฉบับของวัฒนธรรมอเมริกันรวมไปถึงพายฟักทองผสม “กลิ่นอายแบบเบอร์ลิน” งานนี้ถูกโปรโมทอย่างกว้างขวาง และร้านนี้ก็กลายเป็นที่ๆรวบรวมการพบปะสังสรรค์และอาหารชั้นเลิศไว้ในที่เดียวกันได้อย่างลงตัว
Kurz vor Eden ยังมีบริการรับจัดเลี้ยงสำหรับใครก็ตามที่อยากจัด Power Lunch นอกสถานที่
:::
สุดยอด Power Lunch
แต่ที่เหนือขั้นกว่าทุกหนแห่ง คงต้องยกให้กับที่นี่ Forage Kitchen ที่ซึ่งสร้างเป็น coworking space หรือ coworking kitchen เพื่ออาหารโดยเฉพาะ Forage Kitchen ที่ซานฟรานซิสโกประกาศตัวตนว่าเป็น “ไม่ใช่แค่ศิลปินนักทำอาหาร แต่เป็นสังคมอาหารของทั้งหาดนี้!”
ในขณะที่ coworking kitchen อันแสนจะน่าอร่อยแห่งนี้กำลังหาที่ตั้งเป็นหลักเป็นแหล่ง พวกเขาก็ได้เริ่มเปิดคลาสสอนการทำอาหารที่หน่วยบ่มเพาะวิสหากิจชื่อ Underground Market กลุ่ม Forage Kitchen มีเป้าหมายเหมือนกัน คือการที่จะเป็น incubator space หรือหน่วยบ่มเพาะวิสหากิจสำหรับใครก็ตามที่อยากจะเปิดธุรกิจและเปิดเป็นพื้นที่ที่เป็นมากกว่าครัวให้เช่า
สิ่งอำนวยความสะดวกก็มี เช่น พื้นที่สำหรับทำงาน ห้องครัวส่วนกลาง อุปกรณ์ให้เช่า และความช่วยเหลือด้านธุรกิจสำหรับใครก็ตามที่อยากจะสานต่อความฝันด้านอาหารให้เป็นจริง สมาชิกของที่นี่จะได้รับเชิญมางานที่จัดเพื่อสมาชิกเท่านั้นและมีสิทธิ์ได้เลือกเข้าคลาสทำอาหารที่เปิดสอนก่อนใครเพื่อน
