สำหรับ Deskmag เองก็เพิ่งได้เขียนบทความเกี่ยวกับการ coworking บนเกาะ ที่เราได้พูดถึง coworking space ที่เปิดพื้นที่ให้คุณได้ทำงานบนเกาะสวรรค์อย่างในบาหลีและฮาวาย และจากการตอบรับอย่างล้นหลามที่เราได้จากบทความนั้น ทำให้เราเห็นว่ายังมี coworkers จำนวนมากที่อยากจะแพ็คเสื้อผ้าและยัดออฟฟิศใส่กระเป๋าย้ายไปทำงานติดทะเลกับเขาบ้างถึงแม้จะแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็เถอะ วันนี้เราขอนำเสนออีกสอง coworking space ที่จะทำให้คุณสนุกหรรษาอย่างเต็มที่แต่ก็ยังสามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ในเวลาเดียวกัน นั่นก็คือ The Surf Office และ Sunny Office
Michal Kostal หนึ่งในผู้ก่อตั้ง The Surf Office พูดถึงไอเดียการทำงานแบบผสมระหว่างการพักผ่อนและการ coworking ว่า “เราต้องการที่จะหาจุดกลางระหว่างคนที่มาจากสภาพแวดล้อมแบบ coworking และพนักงานที่รู้สึกหมดแรงและต้องการพักผ่อน”
สำหรับ Katja Andes ผู้อยู่เบื้องหลัง Sunny Office แล้ว การที่เราสามารถเลือกที่จะทำงานที่ไหนก็ได้คือหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในการ coworking หลังจากที่เธอลาออกจากงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน เธอตัดสินในที่จะใช้อิสรภาพใหม่นี้อย่างเต็มที่ แล้วหนีความหนาวเย็นของเยอรมนีมาอยู่ที่ตอนใต้ของสเปน “ฉันได้เจอคนเจ๋งๆเยอะนะ แต่ก็แอบคิดถึงเพื่อนร่วมงานฉันอยู๋บ้าง ฉันไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยวตอนที่ไม่มีใครมาถกเรื่องงานกับฉัน” Andes บอกกับ Deskmag
หลังจากนั้น Andes ก็ลงมือจัดการปัญหานี้ด้วยตัวของเธอเอง ตั้งแต่ออกตระเวนตามหาโลเคชั่นที่เหมาะสำหรับเหล่า coworkers โดยเน้นไปที่ความแรงของอินเตอร์เน็ตและพื้นที่ที่สามารถแบ่งเป็นห้องส่วนตัวและห้องส่วนกลางได้ ส่วน Kostal (จาก The Surf Office) ก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของสัญญาณอินเตอร์เน็ตอีกเหมือนกัน สัญญาณ Wifi ที่ชัดเจนจะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานได้ดี แต่การได้โลเคชั่นใกล้ทะเลนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งข้อดึงดูดที่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว
The Surf Office ตั้งอยู่บนชายฝั่ง Gran Canaria และก็เหมือนอย่างที่ชื่อบอกไว้อยู่แล้ว ที่นี่เกี่ยวกับกีฬาโต้คลื่นและการทำงาน The Surf Office มาจากความคลั่งไคล้ในกีฬาชนิดนี้แต่ก็ยังไม่ลืมว่าเรายังต้องการเงินเพื่อทำในสิ่งที่เราชอบ “โครงการของเรามันเหมาะมากสำหรับฟรีแลนซ์หรือกลุ่ม startup ที่กำลังทำโปรเจกต์อยู่” Kostal อธิบายเพิ่ม และก็คงไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่าการได้แรงบันดาลใจในการทำงานแบบ coworking ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนใคร
ส่วน Kostal เองนั้นก็มีเครือข่ายไม่น้อยเหมือนกัน ตัวเขาเองก็ได้บริหารค่ายโต้คลื่นในฝรั่งเศสและสเปนมาซักพักนึงแล้ว และหนึ่งในทีมเองก็เป็นผู้ร่วมก่อนตั้ง Slovak Surfing Association (สมาคมกีฬาโต้คลื่นแห่ง Slovakia) รวมไปถึงเพื่อนอีกคนนึงซึ่งเคยเป็น coworker เปิดโอกาสให้ทั้งสามคนได้รวมตัวกันและเปิด The Surf Office ที่ Gran Canaria ในภูมิภาคที่อากาศเพอร์เฟคแทบจะตลอดทั้งปี
สำหรับเครือข่ายของ Andes แล้ว มาจากสมัย “Idea Camp” ซึ่งเป็นบริษัทที่เธอก่อตั้งขึ้นมาเองที่มีผู้ประกอบการมาแลกเปลี่ยนไอเดียเพื่อพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ หลังจากที่เธอลองแย๊บๆ ไอเดียการทำงานแบบ coworking กับคนรอบข้างเพียงไม่กี่เดือน เธอก็กระโดดเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว “ฉันเจอบ้านที่เหมาะมากสำหรับ Sunny Office และมีคนที่อยากจะเข้าร่วมด้วย พอเรารู้ว่าแผนนี้เวิร์คชัวร์ๆปั๊บ ฉันก็เริ่มหาสถานที่ดีๆให้กับทีม ตอนนี้ก็กำลังวางแผนสำหรับฤดูใบไม้ร่วงอยู่ อยากให้เป็นโปรแกรมแพคเกจประมาณ 2 อาทิตย์ ฉันหวังว่าจะดึงคนมาได้ โดยเฉพาะจากสเปนและโปรตุเกส” Andes กล่าว
และถ้าคุณเป็นคนค่อนข้างมัธยัสถ์ ราคาของสองที่นี้ก็ค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อ เพราะรวมทั้งพื้นที่ทำงานและที่พัก ทั้ง Kostal และ Andes เองก็ให้ความสำคัญกับบรรยากาศท้องถิ่นเช่นกัน โดยการเลือกโลเคชั่นที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เพื่อที่คุณจะได้พักผ่อนอย่างเงียบสงบ
ไม่มีวันสายเกินกว่าที่จะจองตั๋วแล้วมาลอง coworcation ด้วยตัวคุณเอง ที่ The Surf Office เองก็เปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนและที่ Sunny Office ก็กำลังเตรียมตัวที่จะเปิดสำหรับหน้าหนาวนี้
“ผมคิดว่าหนึ่งอย่างที่บอกถึงความเป็นเราก็คือ เราไม่ใช่ coworking space แบบทั่วไปที่สร้างมาจากสังคมในท้องถิ่นนั้นๆ เราเจาะจงไปที่กลุ่มคนที่ต้องการย้ายมาอยู่ซักพักแล้วก็กลับบ้านมากกว่า ดังนั้นเราเลยไม่ค่อยจะท้องถิ่นซักเท่าไหร่ แต่เหมือนเป็นสังคมชั่วคราวมากกว่า” Kostal อธิบาย
สำหรับ Andes แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมาคือการมีการ์ด เธอบอกกับเราว่าเธออยากมี coworking space ถาวรซัก 2-3 ที่ เพื่อที่คนจะย้ายไปมาได้ระหว่างฤดูหนาว
“ฉันว่ามันเหมาะมากสำหรับคนที่ทำงานหนักและไม่มีเวลาสำหรับวันพักผ่อนจริงๆจังๆ อย่าง Sunny Office ครั้งที่แล้ว เราทำงานเต็มที่ทั้ง 2 อาทิตย์ แต่ทุกคนก็รู้สึกผ่อนคลายไปด้วย” Andes กล่าว
